ในภาษาไทย เดือนที่ลงท้ายด้วย ยน มี 30 วัน และ คม มี 31 วัน
แต่ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งเรียกว่า เดือน 1, เดือน 2, เดือน 3, etc.
ทำให้ไม่สามารถแยกจำนวนวันง่าย ๆ โดยดูชื่อเดือนได้
ซึ่งคนญี่ปุ่นเค้าก็จะมีวิธีการจำโดยจะท่องว่า ..
"西向く侍 = นิชิมุคุซามุไร"
แปลว่า
"ซามูไรที่หันไปทางทิศตะวันตก"
ซึ่งประโยคนี้จะพ้องเสียงกับตัวเลขดังนี้:
นิ - 2
ชิ - 4
มุ - 6
คุ - 9 และ
ซามุไร - ไม่ได้พ้องเสียงแต่ให้จำเป็นพิเศษว่าซามูไรคือ 11
(ดูแถ ๆ แต่ก็น่ารักดีนะ -..-)
ฉะนั้นนอกจาก เดือน 2 ที่มี 28/29 วันแล้ว เดือน 4, 6, 9, 11 ก็มี 30 วัน
ส่วนที่ไม่ได้อยู่ใน นิชิมุคุซามุไร ที่เหลือก็จะมี 31 วันนั่นเอง
จบจ้ะ
Saturday, June 30, 2012
Saturday, May 05, 2012
Review - MiPow Power Tube 5500
ติดไว้นานแล้วว่าจะรีวิวตัว MiPow Power Tube 5500 หน่อย
เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ 3GS เก่า ๆ แบตเสื่อมนี้ ข้าพเจ้าจึงไปหาซื้อตัวที่ชาร์จแบตสำรองไว้ เผื่อแบตหมดตอนอยู่ข้างนอกจะได้ต่อชีวิตได้อีกหน่อย หาไปมาก็มาลงเอยที่ยี่ห้อนี้รุ่นนี้ (5500) เนื่องจากมี 5500 mAh ซึ่งก็น่าจะเพียงพอที่จะชาร์จไอโฟนได้ราว ๆ สองรอบ และน่าจะชาร์จต่อลมหายใจให้ iPad ได้ด้วย (ยังไม่ได้ลอง - ไม่มี iPad orz - แต่คงชาร์จไม่เต็มเพราะไฟมันไม่พอขนาดนั้น - iPad ประมาณเกือบ 7000 mAh) หน้าตาก็โอเคแล้วก็มีสีให้เลือกเยอะ เอาเป็นว่าตัดสินใจเลยเพราะหน้าตามันนี่แหละ <(-_-")
เริ่มเลยดีกว่า
ไม่ชอบ
เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ 3GS เก่า ๆ แบตเสื่อมนี้ ข้าพเจ้าจึงไปหาซื้อตัวที่ชาร์จแบตสำรองไว้ เผื่อแบตหมดตอนอยู่ข้างนอกจะได้ต่อชีวิตได้อีกหน่อย หาไปมาก็มาลงเอยที่ยี่ห้อนี้รุ่นนี้ (5500) เนื่องจากมี 5500 mAh ซึ่งก็น่าจะเพียงพอที่จะชาร์จไอโฟนได้ราว ๆ สองรอบ และน่าจะชาร์จต่อลมหายใจให้ iPad ได้ด้วย (ยังไม่ได้ลอง - ไม่มี iPad orz - แต่คงชาร์จไม่เต็มเพราะไฟมันไม่พอขนาดนั้น - iPad ประมาณเกือบ 7000 mAh) หน้าตาก็โอเคแล้วก็มีสีให้เลือกเยอะ เอาเป็นว่าตัดสินใจเลยเพราะหน้าตามันนี่แหละ <(-_-")
เริ่มเลยดีกว่า
กล่องหน้าตาแบบนี้ แถบสีข้างล่างคือสีทั้งหมดที่มีให้เลือก ราคาเต็มมัน 2790 แต่ตอนนั้นซื้อที่ Power Buy 2490 รับประกัน 1 ปี (ฟังพนักงานพูดไม่ทันว่าลดเนื่องในโอกาสอะไร)
ขนาดพอดีมือไม่ใหญ่เท่าไหร่ เลือกสีนี้มาเพราะชอบเป็นการส่วนตัว วัสดุดูดีทีเดียว เป็นอลูมิเนียมดูแข็งแรงมีน้ำหนักดี ปุ่มที่เห็นข้างบนใช้กดเช็คว่ามีไฟเหลืออยู่เท่าไหร่ และถ้ากดค้างก็จะเป็นการเปิดปิดไฟฉาย - ใช่แล้ว! มันมีไฟฉายด้วย!
เทียบกับไอโฟนยุคบุกเบิกอายุห้าปี
ในกล่องยังมีถุงผ้าสำหรับใส่ตัว Power Tube แล้วก็หัวต่อชนิดต่าง ๆ มาให้มากมาย มี Mini USB ด้วยนะ แล้วก็ลองเสียบชาร์จ BB ได้ชิล ๆ เพื่อนลองชาร์จดูละ
เวลาเราจะชาร์จไฟเข้า MiPow นี้ก็เสียบแจ็คแล้วต่อ USB กับคอมหรือ adaptor ของ iPhone เราได้เลย เสียบกับคอมก็จะเต็มช้าหน่อย เหมือนเวลาชาร์จไอโฟนแหละ
ลองเสียบชาร์จให้ดู มันจะมีแถบไฟบอกระดับแบตที่เหลืออยู่ ถ้าเกือบเต็มถึงเต็มก็จะเป็นสีน้ำเงิน ลดลงมาเรื่อย ๆ ก็เป็นสีเขียว ส้ม แดง ไล่ ๆ มา
แถมสายชาร์จ Galaxy Tab มาให้ด้วยนะ ถ้าไม่เขียนบอกพ่อเสียบชาร์จไอโฟนไปละ ทำไมต้องทำให้เหมือนอะไรขนาดนั้น
ที่ชอบอีกอย่างคือมีไฟฉายในตัว เป็นหลอด LED สว่างโร่เชียว
อันนี้ทดลองชาร์จ 3GS รอบที่ 2 จาก 2% ขึ้นมาได้ถึง 84% ก็หมดไฟ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงยี่สิบนาที (รอบแรกชาร์จจากเครื่องดับไปจนแบต 100% แต่ชาร์จไปเล่นไปก็ราว ๆ สองชั่วโมงก็เต็ม)
สรุปเลยละกัน
ชอบ
- หน้าตาถูกจริตเป็นการส่วนตัว แล้วแต่คนเนอะ คนอื่นอาจจะไม่ชอบก็ได้ล่ะ
- วัสดุดูทนดีหนักแน่นบึกบึนทึนทึก
- มีไฟฉาย สว่างเชียว พกไปเที่ยวน่าจะเหมาะ
- ชาร์จ 3GS ไปเล่นไปได้เกือบ ๆ สองรอบ ถ้าเป็น 4 หรือ 4S ที่กินไฟมากกว่า 3GS ก็คงจะได้น้อยกว่านี้นิดหน่อย ไม่ทิ้งห่างมาก ต่อชีวิตได้อีกนานโข
ไม่ชอบ
- ปุ่มกดตอนเช็คแบตกดง่ายปกติ ไม่มีปัญหา ถ้าตอนเปิดไฟฉายซึ่งต้องกดค้าง มันกดยากคือต้องจิกลงไปมากกว่าตอนเช็คแบตนิดนึง จนตอนแรกนึกว่าไฟเจ๊งไปแล้ว ไม่รู้ว่าได้อันที่ปุ่มไม่ดีมาเองรึเปล่า ใครจะซื้อก็ลองขอเค้ากดดูก่อนก็ดีนะ ถ้าพนักงานไม่ว่าอะไร
จบแล้วล่ะ
Labels:
5500,
charger,
external battery,
gadgets,
iphone,
mipow,
power tube,
review
Sunday, March 11, 2012
Fullmetal Alchemist: The Sacred Star of Milos
วันนี้ไปดู FMA the movie ที่ลิโด้มา
เป็นครั้งแรกที่ดูอนิเมในโรง
เนื้อเรื่องก็เป็นนักแปรธาตุสู้กันตามปกติ
แต่ที่ชอบมากคือบรรยากาศในโรง
มัสแตงออกมาก็กรี๊ด อัลหัวหลุดก็ฮา
รสนิยมเห่ย ๆ ของเอ็ดที่ทุกคนรู้กันดี ฯลฯ
ส่วนมากก็เป็นเด็ก ๆ ทั้งนั้น ไม่ก็พ่อแม่พาลูกไปดู
ดูไปลูกก็อธิบายให้พ่อแม่ฟังว่าอะไรเป็นอะไร ใครเป็นใคร
เป็นโรงที่ไม่เงียบเลย คุย กรี๊ด ก๊าก จ๊าก ว้ากกันตลอด
เป็นความไม่เงียบที่น่ารัก คุยกันก็จริงแต่ไม่น่ารำคาญซักนิด
รู้สึกเลยว่าบรรยากาศแบบนี้หาไม่ได้ในโรงหนังปกติทั่วไป
คนที่ไปดูก็แฟนการ์ตูน ดูกันสนุก มันก็ทำให้เราสนุกไปด้วยเนอะ
:)
เป็นครั้งแรกที่ดูอนิเมในโรง
เนื้อเรื่องก็เป็นนักแปรธาตุสู้กันตามปกติ
แต่ที่ชอบมากคือบรรยากาศในโรง
มัสแตงออกมาก็กรี๊ด อัลหัวหลุดก็ฮา
รสนิยมเห่ย ๆ ของเอ็ดที่ทุกคนรู้กันดี ฯลฯ
ส่วนมากก็เป็นเด็ก ๆ ทั้งนั้น ไม่ก็พ่อแม่พาลูกไปดู
ดูไปลูกก็อธิบายให้พ่อแม่ฟังว่าอะไรเป็นอะไร ใครเป็นใคร
เป็นโรงที่ไม่เงียบเลย คุย กรี๊ด ก๊าก จ๊าก ว้ากกันตลอด
เป็นความไม่เงียบที่น่ารัก คุยกันก็จริงแต่ไม่น่ารำคาญซักนิด
รู้สึกเลยว่าบรรยากาศแบบนี้หาไม่ได้ในโรงหนังปกติทั่วไป
คนที่ไปดูก็แฟนการ์ตูน ดูกันสนุก มันก็ทำให้เราสนุกไปด้วยเนอะ
:)
Labels:
anime,
fma,
fullmetal alchemist
Subscribe to:
Posts (Atom)